โรคภัยไข้เจ็บ ตอนที่ 42– ร่างกายที่แข็งแรง (3)

การลดพลังงานที่บริโภค อาจทำได้โดย

  1. แทน (Replace) เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล (Sweetened drink) [เช่นโซดาและน้ำผลไม้] ด้วยน้ำ โดยเฉลี่ย (Average) ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน บริโภคพลังงานจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไปทั้งหมด 145 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าเราแทนด้วยน้ำเพียง 5 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเท่ากับประหยัดพลังงานส่วนเกินไปประมาณ 10 ปอนด์ (ประมาณ 5 กิโลกรัม) ต่อปี
  2. เลือก (Option) ดื่มกาแฟที่มีไขมันต่ำและน้ำตาลต่ำ ในสหรัฐอเมริกา มีประมาณ 30 ล้านคนใหญ่ดื่มกาแฟพิเศษ (เช่น Mocha และ Latte) ทุกวัน กาแฟแบบ Grande White Mocha ด้วยนมจืด (Whole milk) และ Whip cream มีพลังงาน 410 แคลอรี่ ถ้าใช้นม 2% แทน และไม่ใส่ (Exclude) Whip cream จำนวนพลังงานจะลดลงเหลือ 290 แคลอรี่ กล่าวคือ ลดลง 120 แคลอรี่ ถ้าแทนเพียงสามวันต่อสัปดาห์ จะเท่ากับ (Equal) 5 ปอนด์ (ประมาณ 27 กิโลกรัม) ของพลังงานเกินไปที่ไม่ต้องบริโภคต่อปี
  3. ระมัดระวังเมื่อใช้น้ำสลัด ประมาณ 1 ใน 5 ของชาวอเมริกันรับประทานสลัดทุกวัน และ 85% ของสลัดต้องมีการใส่น้ำสลัด ที่มีพลังงานสูง ซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถรักษาสุขภาพได้ โดยเฉลี่ยการใส่น้ำสลัดที่มีพลังงานสูงสามารถเพิ่มพลังงานให้กับสลัดได้เกิน 100 แคลอรี่ต่อการให้บริการ (Serving) สลัด แต่น้ำสลัดที่มีใส่ครีม เช่น น้ำสลัดมะเขือเทศ, Ranch, และ Thousand Island อาจมีพลังงานสูงกว่านี้อีก จงพิจารณาทางเลือก (Alternative) ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น มะนาว, น้ำส้มสายชู (vinegar), และน้ำมันมะกอก (Olive oil) รวมกับเครื่องเทศให้รสชาติ (Seasoning) หรือลดปริมาณโดยสั่งน้ำสลัดส่วน (Potion) ที่แยกออกมาให้เพื่อควบคุม (Control) ปริมาณที่ใช้ได้
  4. หลีกเลี่ยงการกินมากเกินไป (Over-eating) นี่เป็นข้อความที่กว้างๆ และไม่ใช่เคล็ดลับ (Trick) แม้ว่าจะมีเคล็ดลับเล็กๆ ก็สามารถช่วยลดความอยากอาหาร (Appetite) และควบคุมส่วนที่รับประทานในมื้ออาหาร (Meal) ได้
    • การดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยลดปริมาณอาหารที่ต้องรับประทาน โดยกระตุ้น (Activate) ตัวรับที่ยืด (Stretch receptor) และทำให้รู้สึกอิ่มท้อง (Fullness) ในการศึกษาวิจัยครั้งหนึ่ง การดื่ม 500 มล. (2 ถ้วย) ของน้ำ 30 นาทีก่อนอาหารได้ส่งผลให้การรับประทานพลังงาน (Intake) ลดลง 13%
    • การเคี้ยว (Chewing) อาหารอย่างละเอียด (Thoroughly) ยิ่งเคี้ยวมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เวลาในการรับประทานอาหารนานขึ้น (Longer) และร่างกายมีเวลารองรับสัญญาณ (Sensation) การรู้สึกอิ่มท้อง ซึ่งเป็นกลยุทธ์พฤติกรรม (Behavior strategy) ที่เป็นไปได้ (Potential) ในการลดปริมาณการบริโภคพลังงาน การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่ง แสดงว่าการเคี้ยวอาหารนานกว่าปกติ 2 เท่าลดปริมาณอาหารลงถึง 15%
    • การเคี้ยวหมากฝรั่ง (Gum) หลังจากมื้ออาหาร จะทำให้เรารู้สึกอิ่มท้อง ในงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่ง อัตราการรู้สึกอิ่ม (Rate of fullness) หลังจากเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นเวลา 5 นาทีมีค่าสูงขึ้นถึง 17% เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่เคี้ยวหมากฝรั่ง และเพิ่มสูงขึ้นเป็น 35% หลังจาก 30 นาที

แหล่งข้อมูล – 

  1. Ramirez, Lucas, MD. (2022.o Simplify Your Health: A Doctor’s Practical Guide to a Healthier Life. Texas, USA: Black Rose Writing.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.